
ไวรัส อาร์เอสวีกับโรคหืด
ไวรัส อาร์เอสวี (RSV: Respiratory Syncytial Virus) หรือ เรสไพราทอรีซินซิเชียลไวรัส เป็นสาเหตุของการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง เกิดการติดเชื้อได้ทั้งในเด็กและผู้สูงอายุ ค้นพบครั้งแรกในปีพ.ศ. 2500 ซึ่งเป็นสาเหตุของหลอดลมฝอยอักเสบเฉียบพลัน (Acute Bronchiolitis) ในเด็กทารก และในปีพ.ศ. 2513 ได้ตรวจพบว่าเชื้อไวรัสอาร์เอสวีเป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในผู้สูงอายุเป็นครั้งแรก ปัจจุบันเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่พบบ่อยที่สุดในเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 0 – 5 ปี
การติดต่อ และการแพร่ระบาด
เชื้อไวรัสอาร์เอสวีเกิดได้ทั่วโลก โดยมักระบาดในฤดูหนาวของประเทศแถบตะวันตก และในฤดูฝนหรือฤดูหนาวในประเทศเขตร้อน สำหรับประเทศไทยมักจะระบาดในช่วงเดือนสิงหาคม – พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลง และมีความชื้นสูง นอกจากนี้เชื้อไวรัสอาร์เอสวีสามารถติดต่อได้ง่าย ทั้งโดยการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อนี้อยู่แล้ว หรือ มีการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งที่มีเชื้อไวรัสนี้ผ่านทางตาและจมูก หรือทางการหายใจ โดยผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีสามารถกระจายเชื้อให้ปะปนอยู่ในอากาศภายในรัศมี 3 ฟุตผ่านทางการไอหรือจาม
พยาธิสภาพ
เชื้อไวรัสอาร์เอสวีมีระยะฟักตัวประมาณ 5 วัน เริ่มจากการแบ่งตัวบริเวณเยื่อบุผิวทางเดินหายใจในระยะเริ่มต้น มักจะเริ่มจากการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัด ไอและคัดจมูก แต่ในบางรายอาจเริ่มติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนล่าง ซึ่งมักพบว่าเกิดการอักเสบที่หลอดลมฝอยส่วนปลาย (Bronchiolitis) เกิดการบวมของต่อมน้ำเหลืองและเนื้อเยื่อโดยรอบ ส่งผลทำให้เกิดการตายของเยื่อบุผิวทางเดินหายใจของหลอดลมฝอยส่วนปลายและหลุดออกมาร่วมกับเยื่อเมือกที่ผลิตออกมาในปริมาณมาก จะทำให้เกิดการอุดตันของทางเดินหายใจ เป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่ปอด ซึ่งจะทำให้เกิดโรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ หรือส่งผลให้เป็นโรคหอบหืดในที่สุด
อาการ
- อาการเริ่มแรกจะเหมือนไข้หวัดทั่วไป คือ มีไข้ต่ำๆ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล กินน้ำ กินนมได้ จะแสดงอาการอยู่ประมาณ 2 – 4 วัน
- การดำเนินโรคของทางเดินหายใจส่วนล่างมีมากขึ้น จะมีอาการไข้สูง ไอมากขึ้นร่วมกับมีเสมหะ ไอหอบ กล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ หายใจหอบเหนื่อย มักหายใจมีเสียงดังวิ๊ดๆ หน้าอกบุ๋ม เพราะมีการใช้กล้ามเนื้อซี่โครงในการช่วยหายใจ ซึมลง ตัวเขียว กินข้าว กินน้ำ กินนมไม่ได้
- ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยจากการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีในเด็กเล็ก คือ หูชั้นกลางอักเสบ (OTITIS MEDIA) โดยเฉพาะในเด็กอายุ 1 – 3 ปี ที่มาพบแพทย์จะพบว่ามากกว่า 74% จะตรวจพบการติดเชื้ออาร์เอสวีจากของเหลวในหูชั้นกลาง ทำให้หูชั้นกลางอักเสบ มักเกิดภายใน 5 วันหลังจากการติดเชื้อทางเดินหายใจ
- ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้น คือ เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด คลอดก่อนกำหนด มีภูมิต้านทานต่ำ ผู้ป่วยที่มีโรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจเรื้อรัง ยาบางชนิด หรือการได้รับสารก่อภูมิแพ้บางชนิด
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มียารักษาเชื้อไวรัสอาร์เอสวีโดยตรง มีแต่การรักษาแบบประคับประคองตามอาการ โดยยาหลักที่ใช้เพื่อลดความรุนแรงของอาการ คือ ยาต้านการอักเสบลิวโคไตรอีนในรูปแบบยารับประทานที่ไม่มีสารสเตียรอยด์ หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงอาจต้องใช้ยาชนิดรับประทานควบคู่ไปกับยาชนิดพ่นสเตียรอยด์ได้
การป้องกัน
- ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัสอาร์เอสวีในประเทศไทย
- การป้องกันเชื้อไวรัสอาร์เอสวีในเด็กเล็ก
จำเป็นต้องเพิ่มภูมิต้านทานธรรมชาติให้แก่เด็ก อาทิ การเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดา จะทำให้เด็กมีภูมิต้านทานที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย ล้างมือให้เด็กบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการพาเด็กไปในสถานที่แออัด ให้เด็กอยู่ห่างจากผู้ป่วยโรคหวัด เด็กที่ต้องอยู่ในห้องแอร์ หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศเย็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือฤดูหนาว ต้องให้ใส่เสื้อผ้าหนาๆ และดูแลให้ร่างกายอบอุ่นอยู่เสมอ
- การป้องกันเชื้อไวรัสในผู้สูงอายุ
-การป้องกันเชื้อไวรัสในผู้สูงอายุ ไม่ควรเข้าใกล้เด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัด โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง หากจำเป็นต้องอยู่ใกล้ ควรหมั่นล้างมืออยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย

บทความโดย
ศ.ดร.พญ. อรพรรณ โพชนุกูล
ศูนย์รักษาโรคหอบหืดและภูมิแพ้ โรงพยาบาลบีเอ็นเอช BNH Asthma and Allergy Centre (BAAC)
ติดต่อสอบถาม หรือทำนัดหมายกับเจ้าหน้าที่ผ่าน LINE @MBRACE
ทำนัดหมายแพทย์ออนไลน์ | Appointment

ศ.ดร.พญ. อรพรรณ โพชนุกูล
ศูนย์รักษาโรคหอบหืดและภูมิแพ้
ความชำนาญพิเศษ
กุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน
ภาษา
ไทย, อังกฤษ
– สาขา กุมารเวชศาสตร์
– สาขา อนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้ และภูมิคุ้มกัน
– อนุมัติบัตรกุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
– วุฒิบัตรกุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
– ประกาศนียบัตร American Board Certified in Nutritional Wellness
– ปริญญาเอกสาขา Oral Health Science (International Program) คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
– แพทยศาสตร์บัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ตำแหน่งทางวิชาชีพ
– นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย(Thailand Asthma Council)
– ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคภูมิแพ้ โรคหืดและระบบหายใจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
– ผู้อำนวยการศูนย์ Lifestyle and wellness medical center รพ. ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
– หัวหน้าหน่วยวิจัยเฉพาะทางสมุนไพรเพื่อรักษาโรคหืดและภูมิแพ้
– รองประธานมูลนิธิโรคหืดแห่งประเทศไทย
ผลงานทางวิชาการ
– ประพันธ์งานวิจัยเกือบ 40 ฉบับ
– เขียนหนังสือเรียน 5 เล่ม รวมหนังสือเรียนนานาชาติ 1 เล่ม
นวัตกรรมและการมีส่วนร่วมในการดูแลโรคหอบหืด
– พัฒนา 3 นวัตกรรมสำคัญเพื่อผู้ป่วยโรคหอบหืด
– จัดตั้งเครือข่ายการดูแลโรคหอบหืด
รางวัลและการยอมรับ
– ได้รับรางวัลนวัตกรรมระดับนานาชาติ 3 รางวัล จากงานเจนีวา เกาหลี ไต้หวัน International Invention Fair
ภารกิจการพูดระหว่างประเทศ
– นำเสนอเป็นวิทยากรระดับนานาชาติในญี่ปุ่น เกาหลี เมียนมาร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย
มุ่งเน้นการวิจัย
– มุ่งเน้นไปที่การรักษาโรคภูมิแพ้แบบใหม่เป็นหลัก
การมีส่วนร่วมของการทดลองทางคลินิก
– มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการทดลองทางคลินิกระยะที่ 2 และ 3 สำหรับยาสมุนไพรที่มุ่งรักษาโรคหอบหืด
ตารางออกตรวจแพทย์
วัน | เวลา | แผนก |
---|---|---|
เสาร์ | 09:00 – 17:00 | ศูนย์รักษาโรคหอบหืดและภูมิแพ้ |