
ส่องกล้องทางเดินอาหาร คือ อะไร?
การส่องกล้องทางเดินอาหาร แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) และการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน (Gastroscopy)
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) คือ การส่องกล้องเข้าไปทางทวารหนัก เพื่อดูลักษณะของลำไส้ใหญ่ โดยใช้กล้องชนิดอ่อนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่กว่า 10 – 13 มิลลิเมตร และยาว 160 – 180 เซนติเมตร โดยจะสามารถตรวจโรคทางทวารหนักและลำไส้ใหญ่ทั้งหมดได้
กล้องสามารถตรวจได้จากทวารหนัก (Anus) ลำไส้ส่วนปลาย (Rectum) ลำไส้ใหญ่ (Colon) ทำให้สามารถวินิจฉัยโรคของลำไส้ใหญ่ เช่น เนื้องอกในลำไส้ใหญ่ แผลในลำไส้ใหญ่ ได้ถูกต้องแม่นยำขึ้น สามารถหาสาเหตุของเลือดออกในลำไส้ใหญ่ได้ และสามารถตัดชิ้นเนื้อที่ผิดปกติออกมาตรวจได้
นอกจากนี้เรายังใช้เครื่องมือนี้ในการรักษาโรคบางอย่างได้ เช่น การตัดเอาเนื้องอกที่มีลักษณะเป็นติ่งเนื้อที่ยื่นเข้ามาในลำไส้ใหญ่ โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดทางหน้าท้องเหมือนปกติ
แพทย์จะพิจารณาให้ยาลดระดับความรู้สึกในระดับปานกลาง ลดปวด และคลายกังวลระหว่างตรวจ โดยการฉีดยา โดยในบางรายถ้าจำเป็นอาจต้องให้หลับลึก หรืออาจต้องดมยาสลบ

ทำไมต้องส่องกล้องลำไส้ใหญ่ Colonoscopy
เพราะความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารในระยะเริ่มต้น อาจจะไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจน
หรือถ้ามีแต่ละโรคก็อาจจะมีอาการคล้ายคลึงกัน ดังนั้นการตรวจส่องกล้องคัดกรองโรคทางเดินอาหารและลำไส้จึงเป็นวิธีบ่งชี้ความผิดปกติที่ดีที่สุด
ติ่งเนื้อขนาดเล็ก (Polyp) ในลำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะชนิด Adenoma เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนสำคัญที่อาจพัฒนาไปเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในอนาคต หากไม่ได้รับการตรวจพบและจัดการตั้งแต่เนิ่น ๆ
ข้อดีของการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
คือ สามารถเข้าไปตรวจดูภายในตลอดทั้งลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็กส่วนปลายได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ซึ่งจะช่วยหยุดยั้งโรคร้ายได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แม้ว่าจะมีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการเลย
ถ้าตรวจพบความผิดปกติ เช่น พบติ่งเนื้อ เนื้องอก ก็สามารถตัดชิ้นเนื้อออกมาตรวจได้เลยผ่านการส่องกล้อง หรือหากพบเลือดออกในลำไส้ก็สามารถทำการหยุดเลือดได้ทันที
- เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง
- แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างละเอียดและถูกต้อง มีความแม่นยำในการตรวจหาเนื้องอก
- กรณีที่พบติ่งเนื้อ หรือเนื้องอก แพทย์สามารถทำการรักษาได้ทันที
- สามารถตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาได้ทันที กรณีที่สงสัยว่าอาจจะมีเนื้อร้าย
- ไม่มีบาดแผลจากการผ่าตัด
ตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้จริงหรือ?
การตรวจอย่างละเอียดด้วยการส่องกล้องตรวจภายในลำไส้ใหญ่ ช่วยคัดกรองความผิดปกติที่เกิดขึ้นในลำไส้ได้อย่างแม่นยำ
หากตรวจพบติ่งเนื้อหรือก้อนเนื้อได้เร็วจะสามารถทำการรักษาได้ทันท่วงที แพทย์สามารถตัดติ่งเนื้อออกได้ตั้งแต่ยังไม่กลายเป็นเซลล์มะเร็ง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และไม่ต้องทรมานกับการรักษาด้วยเคมีบำบัด
คนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องใส่ถุงจิงโจ้หน้าท้องที่ทำให้การใช้ชีวิตแสนจะลำบาก เสียบุคลิก ต้องคอยระวังเรื่องกลิ่น เรื่องอุจจาระล้นถุง เพราะการส่องกล้องลำไส้ใหญ่เป็นวิธีการที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างได้ผล
ทำไมควรส่องกล้องคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ทุก 5 ปี
การส่องกล้องทางเดินอาหารทุก 5 ปีเป็นการดูแลสุขภาพเชิงรุกที่ช่วยป้องกัน ตรวจพบ และรักษาปัญหาในระบบทางเดินอาหารตั้งแต่ระยะแรก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหรือมีประวัติการตรวจพบความผิดปกติ เช่น ติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่
- ตรวจหาติ่งเนื้อ (Polyps) และป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ติ่งเนื้อชนิด Adenoma ซึ่งอาจพัฒนาเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ภายใน 3-5 ปี
- การตรวจและตัดติ่งเนื้อออกตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบทางเดินอาหารเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลา
- พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การกินอาหารไขมันสูง ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือความเครียด อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคทางเดินอาหาร
- ระบบทางเดินอาหารอาจเกิดความผิดปกติที่ไม่มีอาการชัดเจน เช่น การอักเสบ หรือเนื้อเยื่อผิดปกติ
- ลดความเสี่ยงการพัฒนาความผิดปกติเป็นระยะรุนแรง
- หากมีความผิดปกติเล็ก ๆ เช่น ติ่งเนื้อ การตรวจซ้ำทุก 5 ปีช่วยให้พบความผิดปกติก่อนที่จะลุกลาม
สำหรับผู้ที่เคยตรวจพบติ่งเนื้อหรือมีประวัติทางการแพทย์ที่เสี่ยง แพทย์มักแนะนำให้ตรวจซ้ำทุก 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดของติ่งเนื้อที่ตรวจพบ บางท่านที่ไม่มีประวัติความเสี่ยง ควรตรวจทุก 10 ปี แต่ในบางกรณี เช่น หลังอายุ 45-50 ปี ควรลดช่วงเวลาระหว่างการตรวจ

ใครบ้าง ? ควรทำการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
ผู้ที่มีอาการผิดปกติเหล่านี้
- ขับถ่ายผิดปกติ (ท้องผูกสลับท้องเสีย)
- ถ่ายอุจจาระมีมูกเลือดปน
- ปวดท้องเรื้อรัง
- อาจคลำเจอก้อนในช่องท้อง
- อาการอื่นๆที่ไม่ทราบสาเหตุ เช่น ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
- ถ่ายไม่สุด / อุจจาระลำบากหรือลำเล็กลง / ปวดเบ่งในช่องทวารหนัก
หรือหากคุณมีปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้
- มีอายุ 45-50 ปีขึ้นไป
- มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้
- เคยส่องกล้องลำไส้ใหญ่และพบติ่งเนื้อ
- เป็นลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Ulcerative Colitis)
- มีพฤติกรรมการบริโภคที่เพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่เช่น บริโภคอาหารที่มีสารก่อมะเร็งเป็นประจำ (จำพวกเนื้อแดง หรืออาหารปิ้งย่าง อาหารที่มีไขมันสูง และที่มีกากใยต่ำดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่)
ให้ "การส่องกล้องทางเดินอาหาร" ของคุณเป็นเรื่องง่าย❗️
หมดกังวลเรื่องคิวนาน ! แผนก Digestive Care Centre โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
บริการเต็มรูปแบบทุกวัน ไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น เราก็พร้อมให้บริการส่องกล้องทางเดินอาหารแบบครบวงจรทุกวัน
สะดวกและมั่นใจ ด้วยการเตรียมลำไส้ในช่วงเช้า และเข้ารับการส่องกล้องในช่วงบ่าย
ดูแลพิเศษ โดยพยาบาลผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนของการเตรียมลำไส้
ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับการเตรียมลำไส้
ข้อดีของการส่องกล้องที่โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
- มีทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ทางระบบทางเดินอาหาร คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
- มีเครื่องมือที่ทันสมัย ส่องกล้องด้วย AI และ NBI เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น เพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย
- มีห้องพักสำหรับการเตรียมตัวส่องกล้องแบบส่วนตัว หมดความกังวลแม้คุณมาเองเพียงลำพัง
- ทีมพยาบาลเฉพาะทางดูแลและเตรียมยาระบายให้ท่านตามกระบวนการและเวลาที่เหมาะสม หมดกังวลเรื่องถ่ายยาก ถ่ายไม่หมด หรือปวดขับถ่ายระหว่างเดินทาง
- หากตรวจพบความผิดปกติสามารถดูแล รักษาได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
- มีการติดตามอาการหลังส่องกล้อง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยของเราปลอดภัย
- สะดวก สบาย ครบ จบใน 1 วัน ทั้งการเตรียมลำไส้และการส่องกล้อง

คำถามที่พบบ่อย
ส่องกล้องลำไส้ ต้องการมีการเตรียมลำไส้ก่อนการส่องกล้อง เพื่อความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด – แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนและงดอาหารที่มีกากใยล่วงหน้า 2 วัน – ช่วง 1 วันก่อนการส่องกล้อง แนะนำให้รับประทานอาหารเหลวใส เช่น โจ้กหรือข้าวต้ม และคนไข้ทานยาระบาย เพื่อให้ลำไส้สะอาดจนสามารถตรวจหาเนื้องอกในลำไส้และทำการรักษาได้ครบถ้วน
*กรณีที่คนไข้รับประทานยาต้านเกล็ดเลือดหรือยาละลายลิ่มเลือด จะมีการประเมินความปลอดภัยและเวลาที่เหมาะสมในการหยุดยาล่วงหน้า ได้แก่ หยุดยา Aspirin, Clopidogrel ก่อนส่องกล้อง 5-7 วัน ท่านสามารถศึกษา การเตรียมตัวส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพิ่มเติมได้ที่นี่

2. การส่องกล้องลำไส้ใหญ่มีขั้นตอนอย่างไร?
แพทย์จะใช้กล้องที่มีลักษณะคล้ายท่อขนาดเล็ก ปรับโค้งงอได้ เส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่กว่า 10 – 13 มิลลิเมตร และยาว 160 – 180 เซนติเมตร ปลายกล้องจะมีเลนส์ขยายภาพ และมีแสงไฟที่ปลายกล้อง สอดกล้องช้า ๆ ผ่านทวารหนัก ลำไส้ใหญ่จนถึงลำไส้เล็กส่วนปลาย เพื่อดูตรวจดูความผิดปกติของผนังลำไส้
3. ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ใช้เวลานานไหม?
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ใช้เวลาประมาน 30-45 นาที
4. ส่องกล้องลำไส้ใหญ่เจ็บไหม?
ก่อนเริ่มส่องกล้องแพทย์จะให้ยาระงับความรู้สึกจนคนไข้หลับก่อน คนไข้จะรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อส่องกล้องเสร็จ ดังนั้นในขณะส่องกล้องคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ
บางท่านแค่ได้ยินการส่องกล้องก็กลัวแล้ว แต่ในความเป็นจริงการตรวจส่องกล้องนั้นไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ท่านสามารถคลิกเข้าดู ขั้นตอนและการเตรียมตัวส่องกล้องลำไส้ใหญ่ ได้ที่นี่

5. หากแพทย์พบติ่งเนื้อจะทำอย่างไร ?
แพทย์สามารถทำการตัดได้ทันที ผ่านการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ และส่งตรวจติ่งเนื้อเพื่อวินิจฉัยโรคต่อไป
6. หากพบติ่งเนื้อและตัดออกมาได้ จะรักษามะเร็งได้ไหม ?
มีข้อมลูพบว่าการส่องกล้องลำไส้ใหญ่และตัดติ่งเนื้อสม่ำเสมอ สามารถลดอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ถือเป็นการตรวจที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างดี
7. พบแพทย์แล้วสามารถส่องกล้องได้เลยหรือไม่ ?
หากแพทย์พิจารณาแล้วว่าผู้ป่วยต้องเข้ารับการตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ สามารถทำนัดวันเวลาที่คนไข้สะดวก ก่อนส่องกล้องจะมีการทานยาระบายเตรียมลำไส้ก่อนส่องกล้อง เพื่อความแม่นยำและประสิทธิภาพในส่องกล้องลำไส้ใหญ่
8. ราคาแพ็กเกจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วหรือไม่
ในแพ็กเกจส่องกล้องรวมค่ายาระบาย ยาระงับความรู้สึก ค่าห้องส่องกล้อง ค่าห้องพักฟื้น ค่าแพทย์ทำหัตถการ อุปกรณ์จำเป็นในห้องส่องกล้องทั้งหมด หากแพทย์ตรวจพบติ่งเนื้อ จะมีค่าอุปกรณ์การตัดชิ้นเนื้อและการส่งตรวจวินิจฉัยติ่งเนื้อเพิ่มเติม
9. หากมีประกันสามารถใช้ร่วมกับแพ็คเกจราคาพิเศษได้หรือไม่ ?
หากเป็นแพ็กเกจราคาพิเศษ จัดเป็นการตรวจคัดกรองจะไม่สามารถใช้เบิกประกันได้ ทั้งนี้หากคนไข้มีประกันแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อน
10. การส่องกล้องมีความความเสี่ยงอะไรไหม ?
การส่องกล้องทางเดินอาหารมีความปลอดภัยสูงมาก คนไข้จะได้รับการประเมินร่างกายและอาการอย่างละเอียดก่อนส่องกล้อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะเกิดประโยชน์และความปลอดภัยสูงที่สุด
11. อาการหลังส่องกล้อง ?
ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการปวด ส่วนน้อยอาจมีอาการแน่นท้องเล็กน้อย จะหายในภาย 24 ชั่วโมง หากมีการตัดติ่งเนื้อโอกาสเกิดเลือดออกจากบริเวณที่ตัดติ่งเนื้อ ได้โดยปกติไม่รุนแรง สามารถหยุดได้เอง โอกาสน้อยมากที่จะมีเลือดออกรุนแรงหลังส่องกล้อง
12. ต้องนอนโรงพยาบาลหรือไม่ ?
คนไข้สามารถเตรียมลำไส้โดยการทานยาระบายมาจากที่บ้านได้ และเช้าวันส่องกล้องมาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลาส่องกล้อง 30 นาที เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนส่องกล้อง หลังจากส่องกล้องเสร็จจะพักฟื้นประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อติดตามอาการหลังส่องกล้องและประเมินสัญญาณชีพอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์และพยาบาลวิชาชีพ คนไข้จะทราบผลการตรวจและสามารถกลับบ้านได้
สรุป
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) คือ การส่องกล้องเข้าไปทางทวารหนัก เพื่อดูลักษณะและความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ ซึ่งสามารถเข้าไปตรวจดูภายในตลอดทั้งลำไส้ใหญ่และลำไส้เล็กส่วนปลายได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด ช่วยคัดกรองความผิดปกติที่เกิดขึ้นในลำไส้ได้อย่างแม่นยำ ถือเป็นวิธีการที่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่อย่างได้ผล ซึ่งจะช่วยหยุดยั้งโรคร้ายได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แม้ว่าจะมีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการเลย หากตรวจพบติ่งเนื้อหรือก้อนเนื้อได้เร็วจะสามารถทำการรักษาได้ทันท่วงที ประหยัดค่าใช้จ่าย และไม่ต้องทรมานกับการรักษาด้วยเคมีบำบัด คนไข้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แพ็กเกจส่องกล้องทางเดินอาหาร
อีกหนึ่งในมะเร็งร้ายใกล้ตัว ที่มักมาแบบไม่มีสัญญาณเตือน คือ มะเร็งลำไส้ใหญ่
“อย่านิ่งนอนใจ มะเร็งลำไส้หายได้ ถ้าตรวจพบในระยะเริ่มต้น”
ส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบน (Gastroscopy) ราคาเหมาจ่าย รวม
- ค่าแพทย์ส่องกล้องกระเพาะอาหาร
- ค่าห้องส่องกล้อง
- ค่าระงับความรู้สึก (ยานอนหลับ)
- ค่าอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์
- ค่าห้องพักฟื้น
- ค่าบริการโรงพยาบาล
- ตรวจวิเคราะห์ผลโดยแพทย์ระบบทางเดินอาหาร
แพ็กเกจส่องกล้องตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ราคาเหมาจ่าย รวม
- ค่าแพทย์ส่องกล้องลำไส้ใหญ่
- ค่าห้องส่องกล้อง
- ค่าห้องเตรียมลำไส้
- ค่ายาระบายสำหรับเตรียมลำไส้
- ค่าระงับความรู้สึก (ยานอนหลับ)
- ค่าอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์
- ค่าห้องพักฟื้น
- ค่าบริการโรงพยาบาล
- ตรวจวิเคราะห์ผลโดยแพทย์ระบบทางเดินอาหาร
ส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบนและส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Gastroscopy & Colonoscopy) ราคาเหมาจ่าย รวม
- ค่าแพทย์ส่องกล้องกระเพาะอาหาร
- ค่าแพทย์ส่องกล้องลำไส้ใหญ่
- ค่าห้องส่องกล้อง
- ค่าห้องเตรียมลำไส้
- ค่ายาระบายสำหรับเตรียมลำไส้
- ค่าระงับความรู้สึก (ยานอนหลับ)
- ค่าอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์
- ค่าห้องพักฟื้น
- ค่าบริการโรงพยาบาล
- ตรวจวิเคราะห์ผลโดยแพทย์ระบบทางเดินอาหาร
- กรุณาทำนัดล่วงหน้าก่อนเข้ารับบริการ
- ราคานี้รวมค่าแพทย์และค่าบริการโรงพยาบาลแล้ว
- แพ็กเกจนี้รวมค่ายาระงับความรู้สึกสำหรับการส่องกล้อง (Moderate sedation)
- แพ็กเกจนี้ยังไม่รวมการใช้ยาระงับความรู้สึกโดยวิสัญญีแพทย์ (ดมยาสลบ) หากจำเป็น
- แพ็กเกจนี้ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายนอกเหนือการตรวจส่องกล้อง ได้แก่ ค่าตรวจชิ้นเนื้อเพิ่มเติม ค่าห้อง และค่าอาหารกรณีต้องการเข้าพักเป็นผู้ป่วยใน (แอดมิท)
- รับบริการที่ แผนก Digestive Care Centre ชั้น 3 Zone B โรงพยาบาลบีเอ็นเอช วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 8.00-17.00 น.
- สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 02-022-0753, 02-022-0700 ต่อ 2753, 3330