หมอเด็กที่เหมือนแพทย์ผิวหนัง
– นพ. ถิรชัย ตันสันติวงศ์ –
ที่แผนกกุมารเวช โรงพยาบาล BNH มีคุณหมอท่านหนึ่งที่ผู้ปกครองหลายคนไม่คิดว่าเขาเป็นหมอเด็ก คือ นพ. ถิรชัย ตันสันติวงศ์ กุมารแพทย์ด้านประสาทวิทยาในเด็ก แม้ภายนอกของเขาจะให้ความรู้สึกอีกอย่าง แต่ภายใน คุณหมอคือหมอเด็กทั้งกายและจิตวิญญาณ เพราะเขามีความสุขเมื่อได้อยู่กับเด็ก ได้เล่นกับเด็ก ได้เห็นรอยยิ้มของเด็ก นอกจากนี้คุณหมอยังมีปรารถนายิ่งใหญ่ และอีกด้านของชีวิตที่น้อยคนจะรู้
เด็กที่ต้นทุนต่ำ
“เราโตมากับพ่อแม่ที่ขายเนื้อในตลาดในเมืองภูเก็ต ฐานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดี เราเลยอยากทํางานที่ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัว ตั้งแต่เล็ก ๆ ก็ฝันว่าอยากเป็นดารากับเป็นหมอ เพราะมันรายได้ดีและมีหน้ามีตาในสังคม แต่เป็นดาราก็เสี่ยงเพราะมีคนรุ่นใหม่เยอะ ถ้าเป็นหมอเนี่ย เรายังทำอาชีพนี้ไปได้ถึงอายุ 60-70 ปี แล้วก็ยังได้ช่วยเหลือคนด้วย”
พ่อแม่ของหมอถิรชัยเป็นลูกคนโตในครอบครัวคนจีน พวกเขาไม่ได้รับการศึกษาที่สูงนักเพราะจำเป็นต้องเสียสละให้น้องได้เรียนหนังสือแทน ด้วยข้อจำกัดทางการศึกษานี้ก็ส่งผลต่อฐานะทางครอบครัว และทำให้ถิรชัยต้องแยกออกมาอยู่กับญาติตอนอายุ 12 ขวบ ปัญหาทางบ้านนี้กลายเป็นแรงผลักดันให้เขาตั้งใจเรียนหนังสืออย่างหนักเพื่อหาทางสร้างฐานะให้คนในครอบครัว โชคดีที่เขาเป็นคนเรียนเก่งจึงสามารถรับสอนพิเศษเป็นรายได้เสริมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายได้ตั้งแต่ยังเรียนอยู่
“เราตั้งใจเรียนมาก ไม่เคยว่อกแว่กเลย เมื่อก่อนไม่ค่อยมีตังค์ซื้อหนังสือเรียน เราก็ซื้อแค่บางเล่ม แล้วที่เหลือก็ยืมเพื่อนอ่านสอบ รอเพื่อนอ่านเสร็จแล้วเราก็ไปอ่านที่บ้านเพื่อน ไปอ่านทีละ 20-30 หน้า ประมาณ 4-5 วันจนจบเล่ม”
ในที่สุดถิรชัยก็เข้าเรียนแพทย์ได้สำเร็จที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เขายังคงตั้งใจเรียนอย่างหนักเพื่อให้ได้เกียรตินิยม และนี่ก็เป็นใบเบิกทางให้เขาได้รับเลือกเข้าเรียนในสาขากุมารเวชตามความตั้งใจต่อทันทีที่เรียนจบชั้นปีที่ 6 โดยไม่ต้องผ่านการใช้ทุน
“เราเป็นคนรักเด็ก ชอบเล่นกับเด็ก เวลาเรียนวอร์ดเด็กก็มีความสุข ประทับใจอาจารย์ที่สอนด้วย รู้สึกอยากเป็นเหมือนเขาจัง ก็เลยตั้งใจว่าพอเรียนจบแล้วจะไปเรียนหมอเด็ก”
คุณหมอถิรชัยเรียนกุมารเวชที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เขาสนใจอาการทางประสาทวิทยาซึ่งเป็นสาขาที่ยาก ซับซ้อน ต้องอาศัยประสบการณ์เยอะในการวินิจฉัยรักษา และเมื่อกว่า 20 ปีก่อนยังมีแพทย์เฉพาะทางไม่มากนัก เขาจึงมาต่ออนุสาขานี้ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ระหว่างนี้เขาก็ได้มาเริ่มทำงานนอกเวลาที่โรงพยาบาล BNH เมื่อจบแล้วก็มาเป็นแพทย์เต็มเวลาที่นี่จนถึงปัจจุบัน
“ทำงานที่ BNH เหมือนเป็นครอบครัว มีหมอไม่เยอะ เรารู้จักหมดว่าหมอคนไหนชื่ออะไร มีอะไรไม่เข้าใจก็สามารถคุยได้ โดยเฉพาะเรื่องเคส ลักษณะการทํางานเหมือนเป็นพี่น้องกัน มีการพบปะสังสรรค์กันเหมือนอยู่บ้าน ทํางานแล้วมีความสุข เข้ากับกับบุคลิกเรามากกว่าการทํางานในองค์กรที่ใหญ่เกินไป”

หมอประสาทวิทยาผู้ชอบเล่นกับเด็ก

หมอถิรชัย เป็นกุมารแพทย์ด้านระบบประสาท ความผิดปกติที่คุณหมอดูแลส่วนมากก็คือโรคลมชัก โรคไข้สูง พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น
หนึ่งในเคสประทับใจของคุณหมอ คือคนไข้โรคลมชักจากประเทศภูฏานที่นั้นไม่มีแพทย์ระบบประสาทเด็ก จึงค้นหาแพทย์เฉพาะทางในประเทศไทย แล้วก็มาเจอคุณหมอถิรชัย
“แล้วคุณพ่อคุณแม่เขาก็เลยทํานัดมาเจอกับหมอ บินมาจากภูฏานเลย พอมาตรวจร่างกาย เราเจอว่าเด็กมีพัฒนาการช้ากว่าปกติ อาจเพราะเขาชักบ่อย ทั้งยังไม่สามารถควบคุมอาการชักได้ดีพอ เราก็เลยตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม แล้วก็ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง ตรวจ MRI สมอง ก็พบว่ามีความผิดปกติจริง เราก็ให้ยากันชักไป แล้วให้รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 1-2 วัน ควบคุมอาการได้ก็ให้เขากลับประเทศไป มีนัดมาติดตามอาการ 2-3 เดือนครั้ง เขาก็ควบคุมอาการชักได้ค่อนข้างดี พัฒนาการก็ดีขึ้น ผลการเรียนก็ดีขึ้นชัดเจน ทําให้เด็กออกไปใช้ชีวิต เล่นกับเพื่อน ทํากิจกรรมได้ทั้งกลางแจ้งและในร่ม เด็กมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น แล้วก็มีความสุขขึ้น เพราะเรารักษาได้ตรงจุด”
อีกเคสท้าทายที่เคยผ่านมือคุณหมอถิรชัยมาแล้ว คือเด็กชายวัย 2 ขวบที่ป่วยเป็นโรคมือเท้าปาก เขามาด้วยอาการไข้และเกร็งกระตุก
“ต้องดูก่อนว่าเชื้อตัวนี้ไปที่ก้านสมองหรือเปล่า แล้วต้องรีบให้ยาให้ทัน ไม่งั้นมันจะรักษาได้ยากขึ้น แล้วเด็กก็อาจเสียชีวิตได้ หากเชื้อโรคลามไปถึงหัวใจ ความดันโลหิตก็จะต่ำ พอเราให้ยาไปแล้วเด็กก็ดูดีขึ้น แต่ก็ต้องย้ายเขาไปไอซียู 2-3 วัน เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ถ้ามีความผิดปกติของสัญญาณชีพหรือชักมากขึ้น ก็จะต้องรักษาเพิ่มเติม เช่น ใส่ท่อช่วยหายใจ แต่เด็กคนนี้ก็ถือว่าโชคดีที่เราให้ยาได้ทัน สุดท้ายเขาก็อาการดีขึ้น”
หมอถิรชัยนอกจากจะดูแลเด็กที่มีโรคทางประสาทวิทยาซึ่งซับซ้อนเป็นพิเศษแล้ว เขายังสนิทกับผู้ปกครองของคนไข้หลายรายเป็นพิเศษ บางคนก็เปลี่ยนฐานะกลายเป็นเพื่อนกันไปโดยปริยายหลังพบกันบ่อยเมื่อพาลูก ๆ มารักษา
“ตอนเนี้ยเรากับคนไข้คนนี้ก็เลยรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า มีอะไรเราก็คุยกันได้ตลอด แล้วเราก็รักษาลูกเขาตั้งแต่เพิ่งคลอดเลย จนตอนนี้เด็กอายุ 10 ขวบแล้ว ก็แทบจะเป็นเพื่อนกับเด็กไปด้วยแล้ว ความผูกพันพวกนี้ก็เกิดจากการที่เรารักษาเขาเหมือนเป็นญาติ ก็เลยประทับใจ ทําให้รู้สึกว่าทุกอย่างมันคลิกไปหมดเวลาคุย”
การดูแลคนไข้เด็กแต่ละราย หมอถิรชัยจะมอบการดูแลแบบองค์รวมรอบด้าน หรือ Complete Care ซึ่งแนวทางของคุณหมอ จะดูแลคนไข้ในเชิงรุกหลัก ๆ 3 ด้าน อย่างแรกคือวัคซีน ที่ต้องดูให้ครบทั้งวัคซีนพื้นฐานและวัคซีนตัวเสริม อย่างที่สองคือด้านการเจริญเติบโต ที่คุณหมอต้องมอนิเตอร์ทั้งทางด้าน Physical และ Mental ไปด้วยกัน และสุดท้ายคือด้านพัฒนาการ ว่าพวกเขาเติบโตสมวัยหรือไม่ ซึ่งหากมีด้านใดผิดปกติไป คุณหมอก็จะได้ประสานงานกับแพทย์เฉพาะทางที่เกี่ยวข้องได้ทัน และหากคนไข้ตรวจพบความผิดปกติในด้านใด คุณหมอก็จะคุยกับคนไข้อย่างตรงไปตรงมา ให้รายละเอียดที่ชัดเจนที่สุด รวมทั้งแนวทางการรักษาทุกอย่างที่เป็นไปได้
“คนไข้จะต้องรู้ว่าต่อไปเขาต้องทําอะไร แล้วเราก็จะมอบทางเลือกว่ามีการรักษาแบบใดบ้าง คนไข้จะต้องรู้ข้อมูลให้มากที่สุด และต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจร่วมกับแพทย์ สำหรับหมอแล้ว น้ำเสียง สีหน้า หรือกิริยาท่าทางของเราต้องบ่งบอกความจริงใจด้วย ให้เขารู้ว่าเราหวังดีกับคนไข้ เราชอบเล่นกับเด็กด้วย เลยทําให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายและเชื่อฟัง การใช้จิตวิทยากับเด็กแต่ละวัยมันแตกต่างกัน เราเข้าใจ คนไข้ก็เลยชอบ”
หมอถิรชัยยังเป็นคนร่าเริง และชอบมองโลกในแง่บวกอยู่แล้ว หลายครั้งคนไข้จึงสัมผัสได้ถึงพลังงานบวกจากตัวคุณหมอ ที่ทำให้พวกเขามีกำลังใจในการรักษามากขึ้น

สู่รสพระธรรม

“ชีวิตในกรุงเทพฯ ที่จริงก็เข้ากับบุคลิกเรามากกว่าเพราะเราชอบความศิวิไลซ์ เรามีสังคมที่นี่เยอะกว่าตอนอยู่ต่างจังหวัด เราทํางานหาเงินแล้วก็เลี้ยงครอบครัวได้ เรามีความสุขกับที่นี่ แต่อาจจะฟุ้งเฟ้อมากขึ้นเพราะของล่อตาล่อใจมันเยอะ การแต่งตัวก็เริ่มมีการเปรียบเทียบแข่งกัน ตอนจบมาใหม่ ๆ เรายังไม่ได้คิดถึงอนาคตอะไรมาก อยากได้อะไรก็ซื้อ แต่หลัง ๆ เราก็รู้สึกพอแล้ว”
หนึ่งในสาเหตุที่ผู้ชายสายแฟชั่นอย่างคุณหมอเริ่มหันหน้าเข้าหาความพอเพียง คือการศึกษาพระอภิธรรม ที่คุณหมอถิรชัยไปลงเรียนอย่างจริงจังทุกสุดสัปดาห์ที่วัดสามพระยาและวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ มาเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว
“ทุกคนไม่รู้ว่าหมอเรียนธรรมะ อาจเพราะค่อนข้างขัดกับบุคลิกที่ดูทันสมัย แต่เราเข้าวัดด้วยสติและทำให้เกิดปัญญา เราไปเรียนพระอภิธรรมว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนอะไรบ้าง และจะเอาอะไรมาปรับใช้ในชีวิตประจําวันได้บ้าง”
คุณหมอถิรชัยเป็นคนรักสัตว์ เขาเคยรับน้องหมาพันยอร์คเชียร์ เทอร์เรียมาเลี้ยงตัวหนึ่ง แต่ก็มีเหตุให้น้องต้องจากไปก่อนวัยอันควร
“ทำให้เราเสียใจมาก รู้สึกว่าเราไปทําอะไรไม่ดีให้น้องจากไป เราเป็นทุกข์ ก็คิดว่าจะทําบุญยังไงเพื่อช่วยให้เขาไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ก็เลยหันมาศึกษาธรรมะ แล้วมีรุ่นพี่คนหนึ่งแนะนําให้ไปเรียนนั่งสมาธิ ทำให้เราหันไปสนใจพระพุทธศาสนามากขึ้น”
การหันมาศึกษาพระธรรมอย่างจริงจัง นอกจากทำให้คุณหมอปล่อยวางจากความฟุ้งเฟ้อแล้ว ยังทำให้เขามีความปรารถนาใหม่
“เรามีความฝันว่าสักวันหนึ่งอยากออกบวช และได้ไปสักการะต้นศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาในประเทศอินเดีย ซึ่งที่จริงเราไปอินเดียมาหลายรอบแล้ว แต่ไปในนามของฆราวาส ครั้งนี้เราอยากจะไปในฐานะพระสงฆ์”
หมอเด็กที่หน้าเด็ก

นอกจากเครื่องแต่งกายที่เขาพิถีพิถันในการเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองมาก คุณหมอถิรชัยยังมีผิวพรรณดีและรูปร่างสมส่วน จนผู้ปกครองหลายท่านคิดว่าเขาเป็นแพทย์ผิวหนัง ผู้ปกครองของคนไข้เด็กหลายคนก็ไม่อยากให้ลูกหลานเรียกเขาว่า ‘ลุงหมอ’ แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้วก็ตาม
“หมอเน้นเรื่องการออกกําลังกายมาก แล้วก็ดูแลผิวพรรณ เราอยากทำตัวเองให้ดูสะอาดน่ามองน่าคุยด้วย เราเชื่อว่าต้องรู้จักดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกายแล้วก็จิตใจก่อนที่จะไปดูแลคนอื่นได้ เพราะก่อนที่คนอื่นจะยอมเชื่อถือ เขาก็ต้องดูก่อนว่าเรามีอะไรดี”
หมอถิรชัยเน้นทานผลไม้ โดยเขาชอบอะโวคาโดมากเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบกินผักมากนัก แต่ก็จะพยายามบังคับให้ตัวเองรับประทานผักในวันที่ทานไขมันไปเยอะ เพื่อให้ไปดักจับไขมันส่วนเกิน
“แล้วเราก็ชอบตีแบต เพราะมันทำให้เรามีสมาธิ แล้วก็ได้เคลื่อนไหวกายทุกส่วน เราชอบเข้าฟิตเนสอาทิตย์ละ 2-3 วันด้วย มันทําให้รูปร่างดี สวมเสื้อผ้าแล้วสวย และดูน่าเชื่อถือ”
“เราอยากเป็นตำนาน ว่าหากคนไข้หรือผู้ปกครองนึกถึงหมอเด็กที่เก่งและดีแล้ว ต้องมีหมอถิรชัยอยู่ในนั้น เราอยากช่วยเหลือเด็กและพ่อแม่ในทุกด้าน อยากทําให้เขาไม่มีทุกข์ แล้วยังทําให้เขามีความสุขกับการใช้ชีวิต”
ในทางโลก หมอถิรชัยเป็นแพทย์ที่ทุ่มเทรักษาคนไข้ ในทางธรรม หมอถิรชัยเรียนรู้หลักธรรมเพื่อเข้าใจโลก สิ่งที่คุณหมอปฏิบัติทั้งในทางโลกและทางธรรมส่งผลให้เขาเป็นคุณหมอที่เข้าใจคนไข้ เห็นใจเพื่อนมนุษย์ และความสุขที่สุดของคุณหมอคือการได้เห็นเด็ก ๆ ที่เขาดูแลได้มีความสุข

ทำนัดหมายแพทย์ออนไลน์ | Appointment

Febrile Convuision, Epilepsy in Children and Adolescent, Movement Disorder, Headache,
– Diplomate Thai Board of Pediatrics
– Diplomate Thai Board of Pediatric Neurology, Chulalongkorn Hospital
– Certificate in Pediatric Electroencephalogram (EEG), Royal Children Hospital, Melbourne, Australia
– M.D., Prince of Songkla University
ตารางออกตรวจแพทย์
วัน | เวลา | แผนก |
---|---|---|
จันทร์ | 10:00 – 16:00 | แผนกกุมารเวช |
อังคาร | 10:00 – 16:00 | แผนกกุมารเวช |
พุธ | 10:00 – 16:00 | แผนกกุมารเวช |
พฤหัสบดี | 10:00 – 16:00 | แผนกกุมารเวช |
ศุกร์ | 10:00 – 13:00 | แผนกกุมารเวช |
อาทิตย์ | 10:00 – 18:00 | แผนกกุมารเวช |