พญ. สุธรรมา นิ่มสกุล คุณหมอหู คอ จมูก สายฮา ผู้เกิดมาเพื่อเป็นหมอและนักตระเวนชิมขนม

ผู้เกิดมาเพื่อเป็นหมอและนักตระเวนชิมขนม

– พญ. สุธรรมา นิ่มสกุล –

เสียงหัวเราะของ พญ. สุธรรมา นิ่มสกุล มักดังออกมาจากห้องตรวจ ทำให้คนไข้ที่ได้มาพบแพทย์แผนกหู คอ จมูก ประจำโรงพยาบาล BNH ท่านนี้ ได้คลายความกังวลลงไปจากอาการที่กำลังเผชิญ

นี่คือเรื่องราวของคุณหมอสุธรรมา ผู้หญิงที่เกิดมาเพื่อเป็นหมอ และใช้ชีวิตให้สนุกเพื่อแบ่งความสุขให้คนรอบตัว

โตมาเพื่อเป็นหมอ

“คุณพ่อของเราเป็นหมอศัลยกรรมพลาสติก ท่านทุ่มเทเวลาในการดูแลคนไข้มาก บางทีก็กลับดึก หรือว่าต้องไปทำงานต่างประเทศไปต่างจังหวัดอยู่เรื่อย ท่านมักไปร่วมโครงการผ่าตัดปากแหว่งเพดานโหว่ให้เด็กด้อยโอกาส แล้วก็เลยมาเป็นแรงบันดาลใจให้เรา ที่จริงพ่ออยากให้เราเป็นทันตแพทย์ แต่เราอยากดําเนินรอยตามท่าน เลยมาเป็นหมอ”

ด.ญ.สุธรรมา โตมากับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวในคลินิกส่วนตัวของคุณพ่อ เธอจึงมีโอกาสเข้าไปช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ในห้องผ่าตัดอยู่บ่อย ๆ เห็นเลือดมาตั้งแต่เล็ก ๆ จนไม่มีความกลัว และซึมซับความรักในอาชีพแพทย์ จนกลายมาเป็นความฝันเดียวของเธอ

“ส่วนคุณแม่เป็นมะเร็งเต้านมเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนเรา 7 ขวบ ทำให้เราอยากช่วยเหลือคนไข้ที่เจ็บป่วยหนักเหมือนคุณแม่ให้กลับมามีสภาพร่างกายและจิตใจใกล้เคียงปกติมากที่สุด”

แล้วสุธรรมาก็ได้เข้ามาเรียนคณะแพทยศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เธออยู่ที่วิทยาเขตองครักษ์ ด้วยนิสัยสนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้ ทำให้เธอสนิทกับคนง่าย เพื่อนนักศึกษาแพทย์ทุกคนก็อาศัยในหอพักแห่งเดียวกัน ชีวิตช่วงนี้ของเธอจึงสนุกเป็นพิเศษแม้จะเรียนหนักมาก แต่ก็อาศัยความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ชวนกันตื่นมาอ่านหนังสือกลางดึก ชวนกันติว ช่วยเหลือกัน จนผ่านเวลานั้นมาได้

แต่ระหว่างเรียนอยู่ปี 5 นศพ.สุธรรมา ก็เจอจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ คือการสูญเสียคุณยายที่เลี้ยงดูเธอมาแต่เด็ก

“คุณแม่เสียตั้งแต่เด็ก คุณยายเลยเหมือนแม่คนที่สอง คุณพ่อทำงานเยอะ เราเลยสนิทกับคุณยายมาก ช่วงเรียนปี 5 ค่อนข้างเรียนหนักเพราะใกล้จบ แม้คุณยายจะไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรง ท่านแค่เสียชีวิตไปเพราะชรา แต่พอไม่มีคุณยาย เราก็ไม่มีกําลังใจหรือแรงบันดาลใจอะไรเลย ต้องทําใจอยู่ระยะเวลาหนึ่ง”

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้คุณหมอได้เข้าใจความรู้สึกของคนใกล้ตัวคนไข้มากขึ้นด้วย และเธอก็ผ่านเวลานั้นมาได้เพราะกำลังใจจากเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกัน

เมื่อเรียนจบแล้ว หมอสุธรรมาก็ได้ไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ด้วยความคุ้นชินกับการช่วยดูแลคนไข้ของคุณพ่อที่เป็นผู้มีปัญหาบนใบหน้า บวกกับเพื่อนของคุณพ่อหลายคนก็เป็นแพทย์หู คอ จมูก หมอสุธรรมาจึงเลือกมาเรียนต่อเฉพาะทางด้านนี้ และเธอยังเป็นคนชอบความสวยความงาม จึงเลือกเรียนต่อสาขาย่อยด้านศัลยกรรมใบหน้า โดยคุณหมอจบทั้งหู คอ จมูก เฉพาะทางและเป็นแพทย์ประจำบ้าน ต่อยอดด้านศัลยกรรมใบหน้าจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

เรียนจบสาขาเฉพาะทางต่อยอดด้านศัลยกรรมใบหน้ามาสักพัก คุณหมอก็มาทำงานนอกเวลาที่โรงพยาบาล BNH และเข้ามาทำงานเต็มเวลาในเวลาต่อมา ซึ่งมีเรื่องน่าประทับใจคือคุณพ่อของคุณหมอสุธรรมาเองก็เคยประจำอยู่ที่นี่มาเป็นระยะเวลานาน และที่ยิ่งกว่านั้นคือ หมอสุธรรมาเองก็เกิดที่โรงพยาบาล BNH

“ที่นี่เป็นโรงพยาบาลขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อนร่วมงานกับบุคลากรแต่ละแผนกสามารถมานั่งคุยกันได้ในห้องพักแพทย์ ทุกคนเหมือนเป็นเพื่อนกัน ค่อนข้างสนิทสนมกัน เลยเป็นสิ่งดีเวลาเราดูคนไข้ พอเราสนิทกันก็สามารถดูแลคนไข้ได้ต่อเนื่องกัน เช่น คนไข้คนหนึ่งก็มีปัญหาหลายระบบ นอกจากทางด้าน หู คอ จมูก แล้วก็อาจจะมีปัญหาทางสุขภาพทางด้านอื่นก็มักจะมีปัญหาตามาด้วย หมอก็จะคุยกันแบบฝากให้เพื่อนหมอดูคนไข้คนนี้หน่อย ทําให้ดูแลคนไข้ได้แบบบูรณาการตามแนวทาง Complete Care ของโรงพยาบาล”

หมอสุธรรมาเป็นแพทย์ หู คอ จมูก แต่เพื่อมอบการรักษาแบบองค์รวมที่ครอบคลุมรอบด้าน คุณหมอเห็นความสำคัญที่จะต้องดูแลไปถึงระดับจิตใจของคนไข้ด้วย เพราะหลายครั้ง ปัญหาที่แท้จริงของคนไข้ก็อยู่ตรงนั้น

ตอนสมัยเป็นแพทย์ใช้ทุน ได้มีโอกาสศึกษาในสาขา Family Medicine จึงมีประสบการณ์ในการรักษาคนไข้ทั้งครอบครัว เราได้ฝึก Active Listening เป็นการฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจ ใช้คำถามกระตุ้นสิ่งที่เป็นความคิดให้คนไข้ได้เล่า ได้ระบายสิ่งที่ต้องการจะพูดและให้การรักษาอย่างตรงจุด

ตอนนี้หมอสุธรรมากำลังเป็นคุณแม่ของลูกเล็ก การเป็นแม่หมายถึงการมีหลายเหตุการณ์ที่เด็กทำตัวไม่เป็นอย่างใจ แต่พอค่อย ๆ เรียนรู้จากลูกไป เธอก็เข้าใจลูกมากขึ้น และเข้าใจการแสดงออกของเด็กมากขึ้น ประสบการณ์จากลูกตัวเองทำให้คุณหมอรู้แนวทางในการเข้าหาคนไข้เด็ก ซึ่งเป็นคนไข้กลุ่มหลักที่คุณหมอต้องดูแลปัญหานอนกรนและอาการผิดปกติที่ต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์

“คนไข้เด็กต้องการความใส่ใจมาก เพราะว่าเด็กเล็กจะงอแง แล้วหลังผ่าตัดต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์อาหารก็ถูกจํากัด กินได้แค่อาหารเหลว แต่เด็กชอบกินขนม เราก็ต้องพยายามทําความเข้าใจกับน้องเขา พอเรามีลูก เราก็เข้าใจมากขึ้นว่าเด็กวัยนี้จะต้องมีวิธีพูดยังไง หรือจูงใจยังไงให้เขาทําตาม เพราะเขามีความคิดเป็นของตัวเอง จะไม่ยอมให้เรามาบังคับ”

อาจเรียกได้ว่า ประสบการณ์ตรงทั้งการเลี้ยงลูก การสูญเสียญาติผู้ใหญ่ และการคลุกคลีกับงานแพทย์มาตั้งแต่เด็ก สร้างหมอสุธรรมาให้เป็นหมอได้อย่างทุกวันนี้

สมดุลชีวิตแบบสุธรรมา

หมอสุธรรมาเป็นคนตลก ชอบปล่อยมุกเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง แต่งานหมอเป็นงานที่หนัก เธอย่อมมีความเครียดบ้างเป็นธรรมดา และในวันที่เครียด เธอจะพาตัวเองเข้าไปฟิตเนส

“เดี๋ยวนี้หมอชอบเข้าคลาส Body Combat รู้สึกว่าสลายไขมันได้เยอะและยังคลายเครียด คลาสเต้นซุมบ้าก็สนุกดี”

นอกจากนี้ เธอยังมีความสุขกับการได้ดูสติกเกอร์และแสตมป์ที่ตัวเองสะสมไว้ตั้งแต่สมัยเด็ก เธอชอบถึงขั้นมีสมุดสะสมสติกเกอร์จริงจังและสมุดสะสมแสตมป์อีกจำนวนมาก แต่มีช่วงหนึ่งที่เธอเลิกสะสมไปเพราะว่าต้องทุ่มเทเวลากับการเรียน จนถึงปัจจุบันที่เทรนด์สติกเกอร์กลับมาอีกครั้ง แต่คุณหมอก็รู้ตัวว่าตัวเองตามไม่ทันแล้ว จะมีก็แต่โปสต์การ์ดติดแสตมป์ที่เธอยังเก็บสะสมอยู่

หลังกลับจากทริปต่างประเทศ หมอสุธรรมามักได้รับโปสต์การ์ดใบหนึ่งส่งมาที่บ้าน แปะแสตมป์จากต้นทาง เป็นโปสต์การ์ดที่เธอส่งหาตัวเอง

“จะได้ตราประทับของสถานที่ท่องเที่ยว บางที่ก็เป็นลวดลายพิเศษ อย่างไปรษณีย์ที่อยู่ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ หรือตึก 101 ที่ไทเป เราก็จะได้ตราประทับสวย ๆ ของสถานที่ท่องเที่ยวนั้นมาเป็นที่ระลึก”

หนึ่งในทริปที่หมอสุธรรมาประทับใจที่สุดคือ เมืองเวนิส ประเทศอิตาลี แม้ว่ารอบนั้นเธอจะไม่ได้ส่งโปสต์การ์ดกลับมาหาตัวเอง เพราะหลงทางจนหาไปรษณีย์ไม่เจอ

“แต่ว่าความประทับใจคือตอนนั้นคือ คนขายกระเป๋าในห้างเขาแนะนำร้านอาหารที่ไม่มีนักท่องเที่ยวรู้จักมากนัก มีแต่คนท้องที่ไปกิน เราก็ไปตามหาตามตรอกซอกซอย เจอร้านประตูข้างนอกมันเป็นสีดํา ๆ สไตล์ยุโรป แต่พอเปิดเข้าไป ทั้งโต๊ะข้างใน ทั้งภาพติดผนัง การตกแต่งมันดูวินเทจ มีครอบครัวเราเป็นชาวต่างชาติแค่โต๊ะเดียว เราสั่งอาหารแล้วก็งงว่าทําไมเขาไม่เสิร์ฟสักที จนมารู้ทีหลังว่าเขาเสิร์ฟเป็นคอร์ส ต้องรอทานของเก่าเสร็จก่อนแล้วค่อยเสิร์ฟเมนูถัดไป ทุกอย่างอร่อยหมด”

เมนูอาหารท้องถิ่นต่างแดนเป็นของที่คุณหมอต้องลองเมื่อได้ออกเดินทาง แต่ที่ไทย เธอจะเป็นสายขนมและเครื่องดื่มมากกว่า ถึงขั้นมีเพจเฟซบุ๊กแนะนำขนมร้านดังที่เธอไปตระเวนชิมและชอบจนต้องบอกต่อ

Dr.CaffeinENT

ในทุกวันทำงานของคุณหมอ ทุกคนมักเห็นเธอมีแก้วกาแฟอยู่ข้างตัว

“เราเป็นคนขี้เซา หลับง่าย หลับได้ทุกที่ จนคิดว่าเป็นเรื่องตลกดีที่วันนี้ก็มาเป็นหมอที่รักษาอาการนอนกรนด้วย เพราะขี้เซา เพื่อนเลยมักเดินมาเจอเราพร้อมแก้วกาแฟ เขาก็จะแซวว่าวันนี้กินกาแฟไปครบ 4 แก้วหรือยัง”

หมอสุธรรมาชอบกินกาแฟถึงขนาดเปิดเพจเฟซบุ๊ก ‘Dr.CaffeinENT’ ซึ่งเป็นคำผสมระหว่างคาเฟอีน และตัวย่อของสาขา หู คอ จมูก (Ear Nose Throat) ซึ่งตอนแรกเธอตั้งใจจะทำเพจให้ความรู้ด้านสุขภาพ แต่มีคนทำเยอะแล้ว และงานรีวิวร้านคาเฟ่ก็สนุกกว่ามาก

“ในเพจมีผู้ติดตามตั้ง 180 คนแน่ะ! เรื่องเกี่ยวกับหู คอ จมูก ไม่ค่อยมีเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องขนมล้วน ๆ”

คุณหมอมีฉายาที่เพื่อนตั้งให้ว่า ‘เค้ก 3 กาแฟ 4’ เพราะทุกครั้งที่ไปร่วมงานประชุมวิชาการ เธอมักสั่งเค้กและกาแฟที่บูธ แล้วก็เข้าประชุมโดยลืมของที่สั่ง พอช่วงพักออกมา จึงกลายเป็นว่ามีเค้กและกาแฟรอให้เธอไปรับเต็มไปหมด จนเธอต้องถือเต็มมือ

กาแฟลาเต้คือเมนูโปรดของคุณหมอ เธอคือสาวก Starbuck จนได้เป็นสมาชิกระดับบัตรทอง แต่พักหลังคุณหมอก็เริ่มหันไปลองกาแฟเจ้าอื่นบ้าง ร้านประจำร้านใหม่คือ ‘%Arabica’ ซึ่งอยู่ที่ Park Silom ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนัก และคาเฟ่กาแฟ Specialty คุณภาพสูงราคาย่อมเยาอีกร้าน คือ ‘พบหน้า’ ที่คุณหมอในโรงพยาบาลแนะนำมา

อันที่จริง โรงพยาบาล BNH ก็มี ‘สภากาแฟรุ่งเรือง’ เป็นสมาคมกาแฟที่ชวนแพทย์มาร่วมรับประสบการณ์บาริสต้าดริปกาแฟไปด้วยกัน แต่หมอสุธรรมาเป็นสายชิมมากกว่าสายทำ จึงมักไปรอชิมมากกว่าไปร่วมดริป

Custard และ Crème Brulee เป็นขนมหวานที่เธอชอบเป็นพิเศษ ซึ่งเธอทานได้ทุกร้านโดยไม่มีร้านโปรด

คุณหมอยังมอบทิปสำหรับคนไข้ที่มาโรงพยาบาล BNH ด้วยว่า ร้านขนม ‘Gourmet Primo’ ในโรงอาหารของโรงพยาบาลจะลดราคา 50% ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ซึ่งหากเล็งขนมรายการไหนไว้ ก็ต้องรีบไปต่อแถว เพราะเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลก็มักรีบไปต่อแถวเช่นกัน

“เราชอบเป็นคุณหมอสายฮา คนไข้มาแล้วจะได้ไม่เครียด แล้วก็พยายามทําทุกวันให้ดีที่สุด ได้ให้คําแนะนําที่ดีแก่คนไข้ ได้ทำให้คนรอบตัวหัวเราะ ได้เป็นคนที่มีประโยชน์ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว”

ฝันแรกและฝันเดียวที่จะได้เป็นหมอของหมอสุธรรมาเป็นจริงแล้วด้วยตัวเอง คนรอบข้าง และประสบการณ์ชีวิตจากคนใกล้ตัว ในวันนี้เธอกำลังส่งต่อสิ่งดี ๆ ที่เธอเคยได้รับไปสู่คนอื่นด้วยประสบการณ์ที่เธอมีเช่นกัน ไม่ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นสุขภาพที่ดี เสียงหัวเราะ หรือความสุขหอมหวานจากร้านขนมที่เธอแนะนำ

ทำนัดหมายแพทย์ออนไลน์ | Appointment