หมอหู คอ จมูก ที่เคยอยากเรียนกฎหมาย
– พญ. ภิญทิพ พิชญาพงศ์ –
ก่อนที่ พญ. ภิญทิพ พิชญาพงศ์ แพทย์แผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาล BNH จะมาถึงจุดนี้ เธอไม่ได้อยากเป็นหมอมาแต่แรก แต่ทางเดินชีวิตก็ทำให้คุณหมอพบความหมายในหน้าที่ที่เธอกำลังทำ จากวันนั้นถึงวันนี้ อาชีพหมอกลายเป็นสิ่งที่เธอรักและมอบคุณค่าให้ชีวิตของเธอ
นักศึกษาแพทย์ที่เคยอยากเรียนกฎหมาย
“คุณพ่อของหมอเป็นคนซื่อตรง เข้มแข็ง แล้วก็กล้าหาญมาก ทุกอย่างของเขาคือสิ่งที่ทำให้หมอเป็นตัวเองได้ในวันนี้ ทั้งคติในการดํารงชีวิต ความคิดทุกอย่าง ส่วนใหญ่ก็ได้มาจากพ่อ หมอสนิทกับคุณพ่อค่อนข้างมาก กับคุณแม่ก็สนิท แต่ส่วนมากแม่ต้องดูแลน้อง
“พ่อเป็นผู้พิพากษา สมัยก่อน ก่อนคุณพ่อจะเข้าประจำศาลยุติธรรมในกรุงเทพฯ ก็ไปประจำตามต่างจังหวัดก่อน เราก็ไปกันทั้งบ้าน หมอก็เห็นพ่อทํางาน จำได้ว่าเคยเข้าไปนั่งในห้องพิจารณาคดีด้วย พ่อนั่งบนบัลลังก์ เราก็นั่งฟังพ่อพิจารณาคดี ไม่รู้เรื่องหรอก แต่เราก็รู้สึกถึงความขลัง ความยุติธรรม รู้สึกว่าพ่อคือ Role Model ก็เลยทําให้อยากเป็นผู้พิพากษา”
ชีวิตที่เติบโตมาโดยมีแบบอย่างเป็นคนในวงการตุลาการ ทำให้ภิญทิพอยากเรียนกฎหมายตามพ่อสมัยที่เธอเรียนมัธยมปลายที่โรงเรียนบดินทร์เดชา สิงห์ สิงหเสนีย์ ตอนนั้นยังมีการสอบเทียบ เธอก็ไปลองสอบดูตั้งแต่อยู่ชั้น ม.5 แล้วก็สอบติดคณะนิติศาสตร์
“แต่ว่าชีวิตในโรงเรียนมันมีความสุข ก็เลยรู้สึกว่าเรียนต่ออีกปีนึงก็ได้ พอได้เรียนเพิ่ม ปีต่อมาก็สอบเอนทรานซ์ได้คะแนนดี ที่จริงก็ไม่ได้คิดอยากเป็นหมอตั้งแต่แรก ในสายแพทย์นี้อยากเป็นทันตแพทย์มากกว่า แต่ว่าคะแนนถึงเลยลองเลือกดู แล้วติดหมอที่วชิรพยาบาล ก็เลยเรียน”
ถึงขาข้างนึงจะก้าวเข้ามาที่คณะแพทยศาสตร์แล้ว แต่ภิญทิพก็ยังมีใจให้กับสายกฎหมาย เธอตั้งใจจะเรียนหมอคู่กับเรียนนิติศาสตร์พร้อมกันให้ได้ปริญญาควบ 2 ใบ
“แล้วพอไปเรียนหมอจริงจัง เราก็เริ่มรู้สึกว่ามันเหนื่อยเหมือนกันนะ ไม่มีเวลาเลย ก็เลยไม่ได้ไปเรียนนิติศาสตร์”
จากเดิมที่ไม่ได้ชอบการเรียนหมอมากนักในช่วง 3 ปีแรก แต่พอเข้าช่วง 3 ปีหลัง ซึ่งได้ทำงานกับคนไข้จริง ๆ นศพ.ภิญทิพ ถึงเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหมาะกับงานนี้
“เวลาที่เราช่วยเขาได้ ทําให้เขาหายป่วย มันรู้สึกดี เรารู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ”
แพทย์หู คอ จมูก ที่เคยอยากเรียนสาขาทางเดินปัสสาวะ
“ที่จริง ตอนเรียนจบหมอ เรายังไม่ได้อยากเรียนสาขา หู คอ จมูก แต่แรก เราอยากเรียนศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะ ซึ่งมันยังไม่ค่อยมีผู้หญิงเรียน แต่หมอไม่มีปัญหาเลย หมอเรียนได้ หมอชอบ”
นศพ. ภิญทิพ ชอบการส่องกล้องทางเดินปัสสาวะ เธอมองว่าเป็นงานที่ท้าทายความสามารถ ทำแล้วมีความสุข แถมยังสนุกมาก แม้ว่าเพื่อนนักศึกษาแพทย์หญิงจะไม่ค่อยมีใครชอบงานนี้นัก แต่ความชอบงานนี้ของเธอก็ยังปรากฎชัด จนอาจารย์แพทย์ชวนไปออกตรวจผู้ป่วยนอกด้วยกัน
“อาจารย์เขาเห็นว่าเราชอบ อีกหน่อยน่าจะมาช่วยเขาได้ ก็เลยให้มานั่งในห้องตรวจด้วย ไปนั่งเขียนประวัติคนไข้ แต่พอไปอยู่จริง มันก็มีประเด็นที่ว่าคนไข้ผู้ชายเข้าห้องตรวจมาแล้วเจอหมอผู้หญิง เขาก็ไม่กล้าคุยกับหมอ เขาอาย สมมติว่าเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มา เขาก็ไม่กล้าบอกหมอ บางทีก็ไม่กล้าถอดกางเกงให้หมอดู…มันเป็นอย่างนี้บ่อยมาก ก็เลยสงสัยว่าเราจะเหมาะกับงานนี้มั้ย…แต่เราก็ชอบงานส่องกล้องอยู่ดี”
เมื่อความชอบสวนทางกับความรู้สึกของคนไข้ นศพ.ภิญทิพ ก็เริ่มคิดหนักขึ้นเรื่อย ๆ อาจารย์แพทย์จึงให้เธอลองออกไปหาประสบการณ์จากการใช้ทุนดูก่อน
หมอภิญทิพเริ่มใช้ทุนที่ร้อยเอ็ดและกลับมาใช้ทุนต่อที่กรุงเทพฯ ยิ่งได้เรียนรู้งาน ยิ่งตอกย้ำความคิดของเธอที่ไม่ค่อยชอบงานอายุรกรรม แต่ก็ไม่ได้ชอบงานหัตถการมากขนาดจะเป็นศัลยแพทย์ การส่องกล้องยังคงเป็นอันดับหนึ่งในความคิดเธอ แต่เธอค้นพบทางที่ได้สนองความชอบ พร้อมกับไม่ทำให้คนไข้ลำบากใจ คืองานในแผนกหู คอ จมูก ซึ่งเธอได้ใช้กล้องในการตรวจวินิจฉัยโรค เธอจึงมาเรียนต่อด้านนี้ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และต่อสาขาย่อยด้านไซนัสและโรคภูมิแพ้ ที่สถาบันเดิม
เพิ่งเริ่มต้นอาชีพแพทย์หู คอ จมูก หมอภิญทิพก็ได้เจอโจทย์ที่ทำให้เข้าใจความหมายของอาชีพหมอมากขึ้น เมื่อเธอใช้ทุนอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง และถูกเรียกตัวให้ไปดูแลเคสคนไข้ฉุกเฉินตอนตีสอง เป็นเด็กชายวัย 14 ปี ที่โดนแทงเข้าที่ลำคอ ซึ่งหมอภิญทิพได้ทราบประวัติว่าเขาคือเด็กเกเรที่ออกจากระบบการศึกษา แถมยังมีลูกเล็ก ๆ แล้ว แต่ก็ทิ้งให้คุณยายเลี้ยงดู วันที่ถูกหามส่งโรงพยาบาลก็เพราะไปมีเรื่องกับคู่อริแล้วโดนแทง
“หมอโดนตามไปที่ห้องฉุกเฉิน พอไปถึง คนไข้ก็ยังหายใจได้อยู่ เราก็พาเข้าห้องผ่าตัด แล้วก็ผ่าเปิดคอดูกับคุณหมอศัลยกรรม ห้ามเลือด ทําการเจาะคอช่วยคนไข้ได้เรียบร้อย ทุกอย่างเสร็จปุ๊บ น้องเขาก็หายใจได้แต่พูดไม่มีเสียง หมอไปดูเขาในเช้าวันที่เขาตื่นขึ้นมา เมื่อเขาเห็นหมอครั้งแรก เขาก็มองหมอด้วยสายตาที่แทนคำขอบคุณ”
เมื่อเด็กชายเริ่มแข็งแรงขึ้น เขาสัญญากับคุณหมอภิญทิพว่าจะกลับไปเรียน จะดูแลลูก จะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้น พอเขาออกจากโรงพยาบาลได้ เขาก็ได้กลับไปเรียนหนังสือจริง คุณหมอยังคงได้เจอน้องอยู่เรื่อย ๆ เมื่อเขามาติดตามอาการ และตัวเขาก็ดูเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจริง ๆ
“ถึงวันที่หมอเอาท่อหายใจออกจากคอเขาได้ หลังจากนี้หมอจะไม่ต้องนัดเขาแล้วเพราะเขาโอเคแล้ว น้องก็ร้องไห้กับหมอ เขาบอกว่าขอบคุณมากนะครับหมอที่ให้ชีวิตใหม่แก่ผม…นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า นี่แหละคือชีวิตการเป็นหมอ”
เมื่อสิ้นสุดการใช้ทุน หมอภิญทิพซึ่งคุ้นเคยกับโรงพยาบาล BNH ดีอยู่แล้วตั้งแต่มาเป็นแพทย์นอกเวลาเมื่อเธอเรียนจบเฉพาะทางต่อยอดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เธอก็ได้กลับมาทำงานที่โรงพยาบาล BNH เต็มเวลาตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 ซึ่งคุณหมอก็ประทับใจในความเป็นมิตรที่ได้รับจากแพทย์และบุคลากรท่านอื่น ทำให้ทำงานได้อย่างสบายใจ ปรึกษาส่งต่อเคสกันได้สะดวก
“ทุกคน Nice แล้วก็น่ารัก ช่วยเหลือกัน อยู่แล้วรู้สึกอบอุ่นดี”
สมดุลชีวิตเพื่อลูก
ในเวลางาน หมอภิญทิพจะดูแลคนไข้แบบองค์รวม ตั้งแต่ร่างกาย จิตใจ ให้มั่นใจได้ว่าคนไข้ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด หากอาการใดที่คุณหมอสังเกตเห็น แต่เกินกว่าขอบเขตการดูแลขอเธอ ก็จะประสานกับแพทย์เฉพาะทางที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คนไข้ได้รับการดูแลรอบด้าน ตามแนวทาง Complete Care ของโรงพยาบาล BNH ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างแพทย์แผนกต่าง ๆ นี้ ก็ส่งผลดีอย่างมากในการบูรณาการการดูแลคนไข้
นอกเวลางาน หมอภิญทิพคือแม่ของลูกชายอายุ 8 ขวบ ด้วยความที่สามีของคุณหมอเป็นจิตแพทย์เด็ก ทำให้ครอบครัวนี้เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจเด็ก ใช้เหตุผลในการดูแล ลูกจึงกล้าเปิดใจคุยกับทั้งพ่อและแม่ได้ทุกเรื่อง
“หมอเลี้ยงลูกสบาย ๆ เน้นแบบเป็นเพื่อนกันมากกว่า ถ้ามีเวลาว่างก็ชอบพาลูกไปเที่ยวเปิดหู เปิดตาที่ต่าง ๆ เมื่อก่อนหมอเล่นกีฬาได้หลายอย่าง เคยลงแข่งได้เหรียญสมัยมหาวิทยาลัย ตอนนี้ก็เหลือแค่ได้เอากีฬามาเล่นกับลูก ทั้งตัวหมอและสามีชอบธรรมชาติ แต่ลูกเป็นเด็กเมือง เขาชอบแสงสีมากกว่า เราก็พยายามให้เขาได้ซึมซับธรรมชาติ พาไปฟังเสียงจิ้งหรีดที่ลูกไม่คุ้นเคย พาไปปีนเขา เดินป่า เช่นที่ภูกระดึง เขาก็ดูทำได้ไม่ทรมานอะไรนะ”
สมัยก่อน ตอนใช้ทุนที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แล้วบ้านของคุณหมออยู่อีกฝั่งหนึ่งของเมือง นอกจากเธอต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงในการเดินทางกลับบ้าน วันที่ลงเวร เธอยังทุ่มเทให้กับงานหนักมากจนเสียสมดุลชีวิต เพราะไม่มีเวลามาใส่ใจดูแลตัวเองเพียงพอ
“จนวันนึง หมอจําได้ว่ากําลังขับรถจากโรงพยาบาลกลับบ้าน แล้ววูบไปแป๊บหนึ่ง แต่ยังประคองรถได้อยู่ เป็นอย่างนี้บ่อยด้วยนะ จนกระทั่งวันหนึ่งเห็นข่าว เลยมานั่งคิดว่าที่เราวูบนั่นคืองีบหลับหรือเปล่า ยังโชคดีที่รอดมาได้ ทำให้คิดว่าเราใช้ชีวิตเยอะเกินไป ควรต้องดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้
“ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตให้มีสติ แล้วก็ทําทุกอย่างให้ดีที่สุด หมอคิดว่าถ้ามีสติ มันก็นํามาซึ่งทุกอย่าง มีปัญญา มีความสามารถในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลคนไข้ ดูแลคนรอบตัว หรือว่าการใช้ชีวิตของตัวเอง”
คนชอบหิน
“หมอไม่ใช่คนสายมูนะ”
แต่ถ้าสังเกตที่ข้อมือของคุณหมอ จะมีสร้อยข้อมือสารพัดหินคล้องอยู่ หมอภิญทิพไม่ได้เชื่อเรื่องโชคลาง หรือสะสมหินมงคล แต่สิ่งที่เธอชอบคือธรณีวิทยา
“ชอบดูว่าหินแต่ละประเภทมันเป็นยังไงบ้าง เวลาเดินป่าเดินเขาก็จะเดินหาหิน แต่หมอไม่เก็บนะ ส่วนใหญ่ก็วางคืนไว้ที่เดิม เราชอบพวกอเมทิสต์ โกเมน ไม่ใช่แนวเพชรพลอย ไม่ได้ชอบเครื่องประดับด้วย แต่แค่ชอบหิน บางทีก็ไปซื้อหินมาร้อยเอง มาประดิษฐ์นู่นนี่ ทำเครื่องประดับแนวโบฮีเมี่ยน ใส่เองบ้าง ให้คนอื่นบ้าง”
“สิ่งที่ภูมิใจที่สุด คือได้เป็นตัวของตัวเองในวันนี้ และได้เป็นหมอ มีประโยชน์กับทั้งตัวเอง ครอบครัว และสังคม มีสติในการดํารงชีวิต หมอตั้งใจตรวจคนไข้ทุกคน แค่เขามาบอกว่าดีขึ้นแล้วนะ หรือหายแล้วนะ แค่นี้หมอก็รู้สึกดีใจมากแล้ว”
ชีวิตอาจมีหลายปัจจัยที่ทำให้ไม่ได้เป็นในสิ่งที่เคยหวัง แต่หมอภิญทิพก็พบความสุขในจุดที่ยืนอยู่ และทำในสิ่งที่เป็นให้ดีที่สุด จนพบสมดุลในแบบของตัวเอง และพบความภูมิใจกับอาชีพแพทย์อย่างทุกวันนี้
Articles & Published Content
ทำนัดหมายแพทย์ออนไลน์ | Appointment
พญ. ภิญทิพ พิชญาพงศ์
แผนกหู คอ จมูก
ความชำนาญพิเศษ
โรคไซนัส และ โรคภูมิแพ้
ภาษา
ไทย, อังกฤษ
โสต ศอ นาสิก
– วุฒิบัตรความชำนาญเฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ปี 2555
– ประกาศนียบัตรแพทย์ประจำบ้านต่อยอด ฝ่ายโสต ศอ นาสิกวิทยา สาขานาสิกวิทยาและภูมิแพ้ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ปี 2558
– แพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหิดล ปี 2549
– แพทย์เฉพาะทาง ด้านโสต ศอ นาสิกวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ปี 2555
ตารางออกตรวจแพทย์
| วัน | เวลา | แผนก |
|---|---|---|
| จันทร์ | 08:00 – 17:00 | แผนกหู คอ จมูก |
| พุธ | 08:00 – 20:00 | แผนกหู คอ จมูก |
| พฤหัสบดี | 08:00 – 16:00 | แผนกหู คอ จมูก |
| ศุกร์ | 08:00 – 15:00 | แผนกหู คอ จมูก |
| เสาร์ | 08:30 – 15:00 | แผนกหู คอ จมูก |
