
โรคข้อเข่าเสื่อม
เป็นภาวะที่ข้อเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบถดถอยขึ้น พบสัมพันธ์โดยตรงกับภาวะที่อายุมากขึ้น โรคนี้เป็นหนึ่งในหลายโรคที่เป็นปัญหาเรื้อรังในกลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากโรคข้อเสื่อมนี้ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปวดที่ข้อ ข้อขัด ข้อบวม และเคลื่อนไหวข้อไม่เป็นปกติ ถ้าเป็นการเสื่อมของข้อที่รับน้ำหนักก็ทำให้เมื่อเคลื่อนไหวลงน้ำหนักแล้วจะยิ่งปวดมากขึ้น

ผู้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเสื่อม
โรคข้อเสื่อมอาจไม่ได้เกิดกับคนทุกคน แต่ผู้ที่มีปัจจัยต่อไปนี้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคข้อเสื่อม
• อายุมากขึ้น
• เพศหญิง
• อ้วน
• กิจกรรมที่เกิดแรงกระแทกที่ข้ออย่างซ้ำ ๆ หรือมากเกินไป
• กรรมพันธุ์
• กระดูกผิวข้อแตกจากภัยอันตราย
• โรคข้ออักเสบต่างๆ
• ความผิดปกติในการรับรู้บริเวณข้อ
BMI Calculator
อาการเบื้องต้นและขั้นตอนของอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม
อาการแรกเริ่มของโรคข้อเข่าเสื่อมในระยะแรก ๆ อาจมีอาการไม่เด่นชัดในผู้ป่วยหลายราย แต่รู้สึกว่าขัด ๆ ที่ข้อเข่า หรือผิดในข้อเป็นครั้งคราว โดยเฉพาะหลังจากที่ข้ออยู่นิ่งเป็นเวลานาน หรือจากการที่ข้ออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งเป็นเวลานานเกินไป ในระยะต่อมาอาการปวดจึงค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ขั้นตอนการเกิดโรคอาจใช้เวลาเป็นเดือน หรือเป็นปีก็ได้
ในระยะต่อมา จะรู้สึกว่าอาการขัดในข้อบ่อยขึ้น และมากขึ้น อาจมีเสียงลั่นในข้อคล้ายเสียงกระดาษทรายถูกัน ในระยะนี้ ผู้ป่วยมักมีอาการปวดร่วมด้วย โดยอาการปวดอาจมีความแตกต่างในผู้ป่วยแต่ละคนอย่างสิ้นเชิง เช่น ปวดน้อย ปวดบางครั้ง จนถึงปวดมาก หรืออาการปวดเป็นตลอดเวลา เมื่อสังเกตให้ดี อาจพบว่าอาการปวดสัมพันธ์กับการทำกิจกรรมเฉพาะบางอย่าง เช่น ออกกำลังกายมาก ขึ้นบันได นั่งเตี้ย หรือนั่งยอง และมักสังเกตว่าอาการปวดดีขึ้น เมื่อลดกิจกรรมเหล่านี้ลง ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกว่าอาการปวดย้ายตำแหน่งได้ หรืออาการปวดเพิ่มจากบริเวณเฉพาะของข้อนั้น ไปสู่ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายด้วย อาการปวดที่เกิดในผู้ป่วยบางรายทำให้เกิดการปรับตัวด้วยการไม่เหยียดหรืองอข้อเข่าจนสุด เมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้น ทำให้เกิดปัญหาข้อติดขัด และเคลื่อนไหวไม่เต็มวงของการงอเข่าตามมา
ในผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมบางรายอาจมีการอักเสบในข้อ ทำให้มีอาการข้อเข่าบวม อุ่นขึ้น เป็นครั้งคราว ผิวหนังอาจมีสีแดงเข้มขึ้นได้หรือมีกระดูกงอกในข้อ ทำให้สังเกตได้ว่าข้อเข่ามีขนาดใหญ่ขึ้น และการเคลื่อนไหวของข้อไม่ได้มากดังแต่ก่อน การอักเสบที่เกิดกับข้อใหญ่ที่รับน้ำหนัก อาจทำให้ผู้ป่วยเดินลงน้ำหนักไม่ได้เพราะความปวด
จะยืนยันได้อย่างไรว่าเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม?
ความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อข้อเข่าเสื่อม
- ผิวของข้อเข่า ซึ่งเป็นกระดูกอ่อน เริ่มสึกหรอ ทำให้ผิวข้อไม่เรียบ สูญเสียความลื่น มัน วาวของผิวกระดูกอ่อนทำให้การเคลื่อนไหวข้อ เกิดอาการติดขัด ฝืด หรือเสียงดังคล้ายกระดาษทรายถูกัน
- การกระจายการรับน้ำหนักของกระดูกผิวข้อ เริ่มผิดปกติ เนื่องจากบางบริเวณรับน้ำหนักมากขึ้น ขณะที่บางบริเวณรับน้ำหนักน้อยลง ทำให้บริเวณรับน้ำหนักมากผิดปกติ สึกหรอเร็ว มีอาการปวดเสียว
- เยื่อหุ้มข้อ ถูกระคายเคือง จากเศษผงกระดูกอ่อนที่อยู่ภายในข้อทำให้เกิดสารที่ทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้น และสร้างน้ำในข้อมากขึ้น แต่เป็นน้ำที่ไม่มีคุณภาพ ทำให้เกิดอาการปวดบวม และข้อเข่าอุ่น
- กล้ามเนื้อรอบข้อเข่า เนื่องจากอาการปวด และการอักเสบของข้อเข่า ทำให้ผู้ป่วยใช้ขาข้างที่เป็นโรคน้อยลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่ามีความแข็งแรงน้อยลง ดังนั้น เมื่อเดินลงน้ำหนัก แรงกระแทกจึงเกิดกับผิวข้อมากขึ้น
- เอ็นยึดข้อ บางส่วนหย่อนยานขึ้น ตามไปกับความเสื่อมของกระดูกผิวข้อ เมื่อเอ็นยืดขึ้นทำให้ข้อแกว่ง หรือหลวมมากขึ้น เพิ่มการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติมากขึ้น ทำให้เข่าเสื่อมเร็วขึ้น
- แนวแกนขา ผลจากเอ็นยึดข้อหย่อนยานขึ้น ผิวกระดูกอ่อนสึกหายไป ข้อจะเริ่มแกว่งในทิศทางที่ผิดปกติมากขึ้น และเมื่อน้ำหนักของผู้ป่วยมากขึ้นด้วย ก็ส่งเสริมให้เอ็นยึดข้อหย่อนยานขึ้น ทำให้ขาดูผิดรูปมากขึ้น เช่น ขาโก่ง หรือขาเกในข้อเข่าที่เสื่อม ร่างกายจะค่อย ๆ สร้างกระดูกงอกขึ้นภายในข้อ เพื่อช่วยให้ข้อกระดูกรอบข้อเข่าเกิดการปรับตัว ไหวแบบมั่นคงขึ้น อาจทำให้ข้อเคลื่อนไหวในทิศทางเหยียดงอได้น้อยลง ความหนาแน่นของกระดูกบริเวณข้อเช่าและรอบ ๆ ข้อ บางลง เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มเดินน้อยลง

ชะลอข้อเข่าเสื่อมด้วยตนเองอย่างปลอดภัย
การที่จะทำให้ผู้ป่วยชะลอการเสื่อมของข้อเข่าลงได้ สิ่งสำคัญที่ต้องทราบก็คือผู้ป่วยที่มีความรุนแรงของโรคเข่าเสื่อมที่น้อยหรือปานกลางเท่านั้น ที่สามารถปฏิบัติตัวหรือรักษาวิธีเหล่านี้ได้ผลเป็นที่พอใจ ดังนี้
- หลีกเลี่ยงท่างอข้อเข่ามาก ๆ (นั่งยอง ๆ นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ และนั่งคุกเข่า)
- หลีกเลียงการขึ้นลงบันไดหลาย ๆ ชั้น อย่างบ่อย ๆ
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้ดี ไม่ให้อ้วน
- หมั่นขยันบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอยู่เสมอ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อด้านหน้าของต้นขา
- ทานยาแก้อักเสบของข้อเมื่อจำเป็นหรือทานเป็นครั้งคราว
- ในรายที่ข้อโก่งผิดรูปและหรือมีการแกว่งของข้อได้มากกว่าปกติ เมื่อต้องเดินทางหรือมีกิจกรรมที่นานกว่าปกติ ควรสวมปลอกสวมข้อเข่า ชนิดมีเหล็กสปริงที่ด้านข้างของข้อเข่าทั้งด้านในและด้านนอก
- ในรายที่ปวดเข่าบ่อย หรือเดินทรงตัวไม่ดี ควรใช้ไม้เท้าช่วยเมื่อต้องเดินเป็นระยะทางไกล หรือเดินในที่ไม่เรียบ (ควรถือไม้เท้าด้วยมือตรงข้ามกับเข่าที่ปวด)
“เมื่อข้อเข่าเสื่อมเข้าสู่ระยะสุดท้าย การรักษาที่ได้ผลดีที่สุด คือการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เนื่องจากทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการปวดและสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิมอีกครั้ง”
บทความโดย ศ. นพ. อารี ตนาวลี ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ ข้อสะโพกและข้อเข่า
Knee and Hip Joint Surgeon Hip and Knee Arthroplasty BNH Shoulder & Joint Centre
FAQ คำถามยอดฮิต ตอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

Osteoarthritis treatment is highly recommended because knee joint degeneration is a spontaneous condition that occurs as we age, similar to the onset of wrinkled skin. Patients with osteoarthritis of the knee experience physical disabilities, especially pain and the inability to perform daily tasks, which requires treatment. The goal of osteoarthritis treatment is to reverse the overall condition and relieve pain by strengthening the muscles surrounding the joint, and to keep the joint functioning to a satisfactory level, where you can exercise and perform daily activities that are appropriate for your age and condition.
If the doctor determines that a patient has osteoarthritis of the knee, but does not have any unusual symptoms, no special treatment may be necessary. In this case, the patient can preserve or maintain the deteriorated joint such that it can remain as is without causing further problems for as long as possible.
For patients with osteoarthritis of the knee with mild symptoms, the main treatment is control of the inflammation so that it does not interfere with daily life, by adjusting the knee function pattern, exercising, which strengthens your muscles, and preventing further inflammation, which slows the deterioration and wear & tear of the joints.
Nowadays, many patients with osteoarthritis of the knee prefer to take Glucosamine, a dietary supplement that does not cause any harm over the long term. Most doctors are of the opinion that if patients take these substances and their knee joint symptoms improve, they can continue to take them.

Osteoarthritis of the knee is a multifactorial condition, but it is generally associated with other joint degeneration, especially the spine and hip and weight-bearing joints, depending on the usage of the individual, including in the case where the knee joint has been deformed over a long period of time. This may place a greater burden on other joints, causing further deteriorate as well.

Generally, knee supports can help reduce pain during injury or inflammation by making the knee joints firmer and more stable. However, wearing supports for a long period of time will result in less exertion of the muscles, causing more weakness, which can result in the muscles supporting the front and back of the knees becoming less effective. Therefore, it is recommended to wear them temporarily, only to relieve pain, but not to prevent osteoarthritis.

In older people whose bone density begins to decline, taking calcium can help strengthen bones and reduce the pressure on their joints, which can slow down the onset of osteoarthritis.
At present, there are no empirical scientific data on herbs can treat osteoarthritis.
เข่ามีเสียง สัญญาณเตือน โรคข้อเข่าเสื่อม?
ประสบการณ์จริงจากผู้เข้ารับการรักษา
“Did a short 15K ride in Bangkachao this morning on my low-step bike. Easier to mount and dis-mount. After all, I am not 75 anymore as my wife told me.
Thank you to you and your teams for a super job, getting me to this point only 7 weeks after to my knee replacement surgery.”
“I have been using BNH for 35 years and have always been impressed by the standard and medical care – but todays experience was totally outstanding; efficient, professional, and caring by all staff but particularly nursing and support staff; and of course by Dr Worapoj who’s treatment – medical assessment and diagnosis; explanation and bedside manner was world class… very many thanks. “
ข้อมูลทีมแพทย์



ราคาพิเศษ!
แพ็กเกจตรวจ X-Ray ข้อเข่า โรงพยาบาลบีเอ็นเอช BNH Hospital
ผู้มีน้ำหนักตัวมาก (BMI >25)
อายุ 40 ปีขึ้นไป
มีประวัติครอบครัวเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม
มีกิจวัตรหรือทำกิจกรรมที่ใช้ข้อเข่าเป็นประจำ
เคยบาดเจ็บที่ข้อเข่า
มีข้อเข่าโก่ง
มีโรคข้อต่าง ๆ เช่น เกาต์ รูมาตอยด์
มีเสียงในข้อเข่าร่วมกับอาการเจ็บ